ไก่ย่างสามแยกวิเชียรบุรี

บริเวณสองข้างทางของเส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑ ถนนสระบุรีหล่มสัก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๒๒–๑๒๓ มีถนนแยกไปทางทิศตะวันออก มีป้ายของทางหลวงบอกว่าวิเชียรบุรี ๗ กิโลเมตร ณ ที่นั้นจะพบกับร้านค้าซึ่งมีรถยนต์โดยสาร รถทัวร์ รถสิบล้อ รถตู้ รถเก๋ง รถจักรยานยนต์ จอดอยู่ มีผู้คนทั้งสองข้างทางค่อนข้างมากในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดเทศกาลต่างๆ จะเห็นควันไฟตลบอบอวล และได้กลิ่นไก่ย่างหอมกรุ่นทั่วบริเวณ สถานที่ดังกล่าวเรียกว่า สามแยกวิเชียรบุรี ซึ่งคนทั่วไปจะรู้จักและเรียกว่า “ไก่ย่างสามแยกวิเชียรบุรี”

ไก่ย่างสามแยกวิเชียรบุรี เดิมมีอยู่ไม่มากนัก และยึดเป็นอาชีพติดต่อกันมาเป็นเวลานาน แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก ผู้คนสัญจรไปมาน้อย ต่อมาเมื่อเส้นทางดังกล่าวสะดวกขึ้น มีผู้คนเดินทางผ่านบริเวณดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา และเป็นจุดรับ-ส่ง ผุ้โดยสารของรถยนต์ โดยสารสายหลักกรุงเทพฯ-หล่มสัก ประกอบกับได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์แม่ช้อยนางรำ มอบเกียรติคุณบัตรให้เป็นเกียรติแก่ นายทรวง ซึ่งจ่าย เจ้าของร้านไก่ย่างที่ใช้ชื่อว่า “ตาแป๊ะ” ในฐานะที่ไก่ย่างมีรสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์ มีคุณลักษณะเด่นเป็นพิเศษกว่าที่อื่นๆ หลังจากนั้นไก่ย่างสามแยกวิเชียรก็ได้รับความนิยมเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น เป็นเหตุให้มีร้านค้าไก่ย่าง ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น ร้านบัวตอง ร้านรสทิพย์ ร้านพิมพ์พา ร้านลูกสาวตาแป๊ะ เป็นต้น

ด้วยชื่อเสียงไก่ย่างวิเชียรที่มีอยู่ และได้รับความนิยมอย่างมากเช่นปัจจุบัน ยังผลให้เกิดอาชีพที่เอื้อต่อกันตามมา เช่น การเลี้ยงไก่ การรับจ้างถอนขนไก่ รวมทั้งการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม ของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ เช่นมะขามหวานมีมากขึ้น กิจการดังกล่าวนับว่าเป็ฯการสร้างงานและรายได้ให้แก่ชุมชนโดยเฉลี่ยในแต่ละวันมิใช่น้อย จากข้อมูลสำรวจการขายไก่ย่าง พบว่า ต้องใช้ไก่ไม่น้อยกว่า ๑,๕๐๐-๒,๐๐๐ ตัว ในแต่ละวัน ปัจจุบันในวันหยุดราชการต้องใช้ไก่เพื่อย่างจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคประมาณวันละ ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ ตัวทีเดียว

 

 

แหล่งท่องเที่ยว

>!< ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช >!<
      รายละเอียด ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่หมู่บ้านสนามบิน หมู่ที่ ๑๖ ตำบลท่าโรง อำเภอวิเชียรบุรี
จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์อย่างมาดกคือ เป็นดินแดนที่สมเด็จพระ-นเรศวรมหาราช ทรงยกกองทัพมาพักแรมที่อำเภอวิเชียรบุรี เมื่อครั้งยกทัพไปตีเขมร
       เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาทำพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ และเทิดพระเกียรติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชาวอำเภอวิเชียรบุรีและอำเภอใกล้เคียงจึงร่วมใจสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขึ้นไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชา พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะกระทำขึ้นทุกปี โดยได้จัดเป็นงานประเพณีขึ้นใน
ช่วงของวันที่ ๒๕ – ๒๗ ของเดือนมกราคมของทุกปี และในศาลสมเด็จสมเด็จพระ-นเรศวรมหาราชก็ยังมีสวนสุขภาพที่กว้างขวางจัดไว้เพื่อเป็นที่ออกกำลังกาย และเป็นสถานที่พักผ่อน โดยมีการปลูกต้นไม้ที่สวยงามไว้ตามมุมต่าง ๆ ของสวนสุขภาพ นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นต้นมา ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จะจัดงานบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระ-นเรศวรมหาราช ระหว่างวันที่ ๒๕ – ๒๗ มกราคม เป็นประจำทุกปี ณ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์
    
.....................................................................................................................................................................
>!< วัดวิเชียรบำรุง หรือวัดท่าน้ำ >!<
      วัดวิเชียรบำรุง ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านท่าน้ำ หมู่ที่ ๑๓ ตำบลท่าโรง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ อุโบสถสร้างขึ้น
ใน พ.ศ. ๒๔๙๖ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ วัดวิเชียรบำรุงเดิมเรียกว่า “วัดท่าน้ำ” ได้สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๔๗๑
       พระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ สวยงามมากมีชื่อว่าพระพุทธไสยยาสน์วิเชียรศรีรัตนมิ่งมงคล มีพระบรมพระสารีริกธาตุบรรจุอยู่ที่อุระ ด้านซ้ายของพระองค์พระพุทธไสยาสน์ เป็นที่สักการะบูชาของชาวอำเภอวิเชียรบุรีเป็นอันมาก นอกจากนั้น บริเวณวัดยังสร้างพระบรมรูปจำลองสมเด็จ
พระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระพี่นางเธอพระพรรวษา มีสระขนาดใหญ่เลี้ยงปลาจำนวนมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอวิเชียรบุรีและเป็นที่สำหรับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปศึกษาหาความรู้เป็นประจำ

        ขอนมาดโบราณ หรือเรียกว่า เรือมาด ประวัติโดยย่อ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีใบบอกให้หัวเมืองหาไม้มาทำเรือ
พระทีนั่ง หัวเมืองเพชรบูรณ์สมัยนั้นให้แก่นครเดิด ให้คนค้นหาจนพบไม้ตะเคียน (ไม้มาด) ต้น ตัดโกรนและล่องมาตามลำ
น้ำป่าสัก ต้นไม้เกิดจมลงในดินหล่มกว่าจะพบอีกที ที่สักงอยเป็นเวลา ๖ เดือน แล้วล่องผ่านนครเดิดไปจนถึงสาวไห้ จังหวัดสระบุรี จึงรู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินได้เรือจากหัวเมืองทางเหนือซึ่งมาจากลำน้ำน่านแล้ว ตำนานเล่าว่าเรือมาดเรียกอีกอย่างว่า “นางมาด”
ทั้ง ๒ รู้สึกเสียใจจึงร้องไห้ จึงเป็นที่มาของอำเภอสาวไห้ ขอนมาดต้นน้องก็จมลงส่วนขอนมาดต้นพี่ลอยทวนน้ำป่าสักหวังจะกลับวังบาลแต่ถึงวิเชียรบุรี ก็จมลงในท่าน้ำทางทิศใต้ ของวัดท่าน้ำหรือ วัดวิเชียรบำรุง ปัจจุบันนี้
......................................................................................................................................................................
>!< ภูเขาหินเหล็กไฟ>!<
      ภูเขาหินเหล็กไฟเป็นภูเขาที่อยู่ด้านหลังของวัดเขาน้อยแสงอรุณ ซึ่งเป็นที่มาของซื่อวัดด้วยเพราะชาวบ้านเห็นแสงสว่างปรากฎบนยอดเขาและชาวบ้านสอบถามพระอาจารย์ทั้ง ๒ รูป คือ พระอาจารย์สอนและพระอาจารย์อุทัย ว่าแสงสว่างที่ปรากฎบนยอดเขานั้นเป็นแสงอะไร พระอาจารย์ได้บอกชาวบ้านว่ามีขุมทรัพย์อยู่ ชาวบ้านรอวันที่แสงสว่างโผล่จากยอดเขาและพบว่าแสงนั้นโผล่จากแท่งหินปูนที่เป็นยอดแหลมจึงพากันขุดเพื่อหาสมบัติ แต่ไม่พบสิ่งใดเลยซึ่งยังเหลือร่องรอยจนถึงปัจจุบันนี้ที่เป๋นหลุมขนาดใหญ่อยู่บริเวณยอดเขา
ในเวลาต่อมามีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ได้ทำการสำรวจและพบว่าบริเวณยอดเขาเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่เคยปะทุขึ้นมาเมื่อ ๗,๐๐๐ ปีมาแล้วและได้ดับสนิทแล้วพบร่องรอลการไหลของลาวาในทิศตะวันออกและตะวันตกของภูเขา ส่วนยอดจะมีลักษณะแหลมเหมือนเจดีย์ แต่น่าเสียดายที่ถูกขุดเป็นหลุมเพราะเข้าใจว่าเป็นที่เก็บสมบัติโบราณ
ภูเขาหินเหล็กไฟ จัดเป็นร่องรอยภูเขาไฟที่สมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนี่งในประเทศไทยและในปีงบประมาณ ๒๕๔๗ ทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยาจะเข้ามาช่วยดูแลเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของ
จังหวัดเพชรบูรณ์ต่อไป

  ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช